เวทีบางกอกมอเตอร์โชว์ 2025 คึกคักมากกว่าทุกปี โดยเฉพาะทุ่มตลาดของเหล่ารถ EV จากจีน ด้านค่ายรถญี่ปุ่นมีเพียงฮอนด้า ทำหน้าที่หัวหอกทะลวงฟัน ส่ง Honda e:N1 รถ EV ในแบบ SUV ออกมาสกัดการขยายตัวของคู่แข่ง ด้วยการปรับยุทธศาสตจากเช่าเป็นจำหน่าย เปิดตัวอย่างเป็นทางการด้วยราคาเริ่มต้น 1,199,000 บาท แต่ยังคงดำเนินกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ในแบบมัลติโซลูชั่น เช่นเดียวกับแบรนด์ญี่ปุ่นอื่นๆ
บุธของฮอนด้าในงาน บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 เป็นการผนึกกำลังแบบจัดเต็มไลน์อัปผลิตภัณฑ์ ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ ของ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์ขนทัพผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้งEV และ e:HEV มาจัดแสดงครอบคลุมในทุกไลน์อัปรวม 11 รุ่น ภายใต้คอนเซ็ปต์ SYNERGY OF ALL’S LIFE, SYNERGIZED EVOLUTION 
จุดเด่นของฮอนด้าในปี 2025 คือ การเปิดราคาจำหน่าย Honda e:N1 www.honda.co.th/en1 ในราคา 1,199,000 บาท และHonda City Hatchback DRIVAL เป็นรุ่นอัปเกรดดีไซน์เพิ่มความสปอร์ตสุดเท่ ดุดัน เร้าใจ ในราคา 829,000 บาท จำนวน 1,000 คัน
Honda e:N1 นับเป็นรถพลังงานไฟฟ้า 100% จากการตลาดในแบบเช่า เป็นการจำหน่าย และรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าและระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าทั้งระบบ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร ตัวรถแม้จะมาจากพื้นฐานเดียวกับ Honda HR-V แต่ได้ออกแบบดีไซน์ภายนอก เป็นเอกลักษณ์ บ่งบอกความเป็นยนตรกรรมไฟฟ้าด้วยโลโก้ H Mark ใหม่ ในสไตล์พรีมียมมินิมอล
ฮอนด้าระบุว่า ภายในห้องโดยสาร มีความกว้างขวางนั่งสบาย พร้อมไฟสร้างบรรยากาศสีฟ้า เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังสามารถพับได้แบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 1 นิ้วแบบ Advanced Touch ที่รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.25 นิ้ว
ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ 3-in-1 (Motor, Power Drive Unit และ Gearbox) ให้กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ หรือ 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ความจุ 68.8 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ระยะทางต่อการชาร์จ 1 ครั้ง สูงสุด 500 กม. ตามมาตรฐาน NEDC และมาพร้อมเทคโนโลยี
ความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING รวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยอื่น ๆ อย่างครบครัน
ส่วน Honda City Hatchback DRIVAL มีเฉพาะรุ่น e:HEV มีมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ผสานกับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว และเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ให้แรงบิดมอเตอร์ถึง 253 นิวตัน-เมตร อัตราประหยัดน้ำมันสูงสุดที่ 27.8 กม./ลิตร เพิ่มความมั่นใจไปกับ Honda SENSING เช่นกัน
นอกจากไฮไลท์ทั้ง 2 รุ่น ยังมีรุ่นยอดนิยม The new Honda HR-V , Honda Accord , Honda CR-V และThe New Honda Civic ทั้งหมดนำเสนอทั้งเครื่องยนต์มีทั้ง VTEC TURBO 1.5 ลิตร และ VTEC TURBO 1.0 ลิตร เครื่องยนต์ฟูลไฮบริด หรือ e:HEV ให้ท้้งสมรรถนะและความประหยัด https://www.honda.co.th/technology
นายฮิเดโอะ คาวาซากะ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การผนึกกำลังอย่างต่อเนื่องของกลุ่มบริษัทฮอนด้าประเทศไทยในปีนี้ เป็นการตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งในฐานะ
แบรนด์ที่ส่งมอบความสุขและอิสระในการขับเคลื่อนผ่านผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่าน ที่ให้
ความไว้วางใจและการสนับสนุนฮอนด้าเป็นอย่างดีมาโดยตลอด จนทำให้ฮอนด้าบรรลุความสำเร็จในการผลิตรถยนต์นั่งครบ 4 ล้านคันในประเทศไทย
ความสำเร็จในครั้งนี้สะท้อนถึงบทบาทสำคัญของประเทศไทย ในการเป็นฐานการผลิตและส่งออกหลักของฮอนด้า อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของฮอนด้า ที่จะเติบโตเคียงข้างสังคมไทยอย่างยั่งยืน เพื่อต่อยอดความสำเร็จในครั้งนี้ไปสู่การสร้างสรรค์สิ่งที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า
ในปีนี้ฮอนด้าจะยกระดับการนำเสนอคุณค่าของแบรนด์ พร้อมเดินหน้าในการส่งมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้าในทุกทัชพอยต์ ภายใต้แนวคิด “Where The Drive Means More ฮอนด้า ขับเคลื่อนชีวิต…ไปให้สุดในแบบที่เป็นคุณ” เพื่อถ่ายทอดให้เห็นว่า รถยนต์ของเราเป็นมากกว่ายานพาหนะ เปรียบเสมือนเพื่อนคู่ใจที่วางใจได้
