
ความสำเร็จด้านการตลาดของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กับการครองอันดับหนึ่งในตลาดกลุ่มรถยนต์พรีเมียมในไทย จากยอดจดทะเบียนบีเอ็มดับเบิลยูและมินิ รวม 15,477 คัน ในปี 2566 เติบโตขึ้น 3% จากปี 2565
ในกลุ่มยานยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% บีเอ็มดับเบิลยูที่มีอัตราการเติบโตสูงกว่า 348% จากยอด จดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 1,399 คัน ขณะที่รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในกลุ่ม Luxury Class มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 46% จากปี 2565 ด้วยยอดจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 668 คัน

มร.อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้ บีเอ็มฯยังคงให้ความสำคัญกับความต้องการหลากหลายของลูกค้าเช่นเดิม
โดยเตรียมนำยนตรกรรมใหม่มาเปิดตัวถึง 10 รุ่น จากทั้งแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด
รวมถึงการเพิ่มบริการและสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามความต้องการ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จะยังคงมุ่งสู่ความเป็นเลิศไปพร้อม ๆ กับผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการและพาร์ทเนอร์ของเราทุกคน เพื่อส่งมอบประสบการณ์ความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าในประเทศไทย
นอกจากนี้บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ยังสร้างผลงานเข้มแข็งในกลุ่มธุรกิจสินเชื่อรถยนต์มือสองซึ่งเติบโตกว่า 25% ปีต่อปี มีอัตราการเข้าถึงตลาดลูกค้าองค์กรกว่า 62%
ตัวเลขนี้สะท้อนถึงความไว้วางใจและความสำเร็จจากในกลยุทธ์ที่คำนึงถึงลูกค้าเป็นหลัก จะเห็นได้จากการลงทุนเพิ่มเติมในปี 2566 เพื่อพลิกโฉมประสบการณ์ลูกค้าหลากหลายรูปแบบ โดยในปีที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ได้เปิดตัว BMW Thailand Web Online Shop ช่วยให้ลูกค้ายืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล หรือ National Digital ID – NDI) รวมทั้งการรองรับลายเซ็นดิจิทัลในการให้บริการ
สำหรับรถรุ่นใหม่จะเปิดตัวในปี 2567 นี้ตัวอย่างเช่น iX2 xDrive30 M Sport ใหม่ รถพลังงานไฟฟ้า อเนกประสงค์แบบคูเป้ มาพร้อม BMW eDrive รุ่นที่ 5 ด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว กำลังรวมสูงสุด 225 กิโลวัตต์หรือราว 306 แรงม้า และเมื่อใช้ฟังก์ชัน Sport Boost หรือ Launch Control ส่งกำลังรวมสูงสุด 230 กิโลวัตต์หรือราวๆ 313 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 494 นิวตันเมตร มีระยะการขับขี่ถึง b417- 449 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP ราคา 3,399,000 บาท
ยังมีบีเอ็มดับเบิลยู 520d M Sport Pro ใหม่ กับเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ197 แรงม้า อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยในราคา 3,779,000 บาท พร้อมกับ รุ่น 530e M Sport Pro ใหม่ ในระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริด จากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตรทวินเทอร์โบ กำลังสูงสุด 299 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ราคา3,949,000 บาท
ด้านมินิ มีการเปิดตัวรุ่น คูเปอร์ เอส 3 ประตู คลาสสิก รุ่นใหม่ล่าสุด โดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยแถบสีขาวหรือสีดำบนฝากระโปรงหน้า มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ กำลังสูงสุด 192 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ในราคาราคา 2,599,000 บาท และอีก 2 รุ่นจากมินิ คือ คูเปอร์ เอส คลับแมน มีความโดดเด่นในดีไซน์หลังคา Multitone Roof หลังคาสีแดงหรือฟ้าไล่เฉดเปรียบเสมือนผลงานศิลปะชิ้นเอก ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ทวิน เทอร์โบ 192 แรงม้า เปิดตัวด้วยราคา 2,999,000 บาท
และรุ่นพิเศษคือ มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน Highlands Edition ดีไซน์ใหม่ มาพร้อมชุดแต่ง MINI ALL4 รวมถึงสัญลักษณ์ไฮแลนด์ที่โดดเด่นสะดุดตา โดยใช้เครื่องยนต์บล็อกเดียวกันกับ มินิ ทั้ง 3 รุ่นก่อนหน้า ในราคา 2,299,000 บาท
ในกลุ่มมอเตอร์ไซค์ บีเอ็มดับเบิลยู จัดเป็นแบรนด์ยอดนิยมในกลุ่มบิ๊กไบท์ โดยบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด มีรถใหม่ 3 รุ่นด้วยกัน ประกอบด้วยรุ่น R 1300 GS ใหม่ ราคา 1,205,000 บาท และ1,125,000 บาท, รุ่น CE 02 ใหม่ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า สำหรับการขับขี่ในเมือง ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 11 กิโลวัตต์ หรือ15 แรงม้า ส่งแรงบิดสูงสุด 55 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 48 โวลต์ ความจุ 1.96 กิโลวัตต์-ชั่วโมง 2 ก้อน ความเร็วสูงสุดที่ 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และวิ่งได้ไกลถึง 95 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง สามารถชาร์จจาก 0% ถึง 100% ในเวลา 210 นาที และชาร์จจาก 20% ถึง 80% ในเวลา 102 นาที ในราคา 479,000 บาท
รุ่น S 1000 RR ใหม่ ราคา เครื่องยนต์เบนซิน 999 ซีซี. 4 สูบเรียง กำลังสูงสุด 210 แรงม้า ความเร็วสูงสุดที่ 303 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในราคา 1,005,000 บาท และรุ่นสุดท้าย K 1600 GT ใหม่ เริ่มต้น 1,695,000 บาท มีรุ่นย่อย K 1600 Grand America ใหม่ ราคาเริ่มต้น 1,775,000 บาท เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบเรียง 160 แรงม้า ระบบปรับช่วงล่างด้วยระบบไฟฟ้า มาพร้อมจอภาพสี TFT ขนาด 10.25 นิ้ว ใหม่อีกด้วย