Maxmotor News

อีซูซุปูเส้นทางสู่EVที่แตกต่าง

By:กองบรรณาธิการ Maxmotorthailand

ในทางการตลาดการสร้าง Brand ให้ฝังเข้าไปในหัวใจลูกค้า เป็นสิ่งสำคัญ และเมื่อมีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง การจะปรับเปลี่ยนทิศทางหรือนโยบายใหม่ๆ ต้องมีการคิดถึงผลกระทบรอบด้านทั้งกว้างและลึก สิ่งนี้เป็นคำตอบหนึ่งว่า ในสถานการณ์ธุรกิจยานยนต์ของไทยถูกรถพลังงานไฟฟ้าจากจีนเข้ามาตีตลาด แต่ทำไมแบรนด์ใหญ่ๆ ของญี่ปุ่น ทั้งอีซูซุ โตโยต้า มาสด้า หรือมิตซูบิชิ ยังไม่แสดงท่าทีกระตือรือร้นมากนัก

มาสด้า เซลส์ประเทศไทย ประกาศเป็นนโยบายว่า จะเช้าทำตลาดรถพลังงานไฟฟ้า เมื่อโครงสร้างพื้นฐานระบบไฟฟ้า และสถานีชาร์จไฟฟ้าที่พร้อมสำหรับการใช้รถได้ใกล้เคียงกับรถสันดาบภายในอย่างที่ทำตลาดในปัจจุบัน โดยภายใน 2 ปีข้างหน้าจะมีรถพลังงานไฟฟ้า BEV และรถปลั๊กอินไฮบริด ของมาสด้าเข้ามาทำตลาดอย่างแน่นอน

ด้านมิตซูบิชิมอเตอร์ ประเทศไทย มร.ทาคาโอะ  คาโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น กล่าวในการเดินทางมาร่วมเปิดตัว รถยนต์ต้นแบบ ปิกอัพ ไทรทัน โฉมใหม่ เมื่อเร็วๆ นี้ โดยบอกว่า มิตซูบิชิจะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการที่จะเปิดตัวให้ได้ภายใน 5 ปี โดยต้องรอโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยด้วยว่าสามารถที่จะรองรับกับจำนวนที่จะออกมาได้มากน้อยหรือเปล่า

ส่วนอีซูซุ ซึ่งอยู่ในตลาดปิกอัพ และพีพีวี ยังไม่ประกาศทิศทางการเข้าสู่ตลาดรถ EV อย่างเป็นทางการ แต่ได้เปิดเผยแผนธุรกิจ รถพลังงานไฟฟ้า “เอลฟ์” และ “ฟอร์เวิร์ด”   ในส่วนของรถบรรทุกขนาดเล็ก สำหรับภาคขนส่ง จากอีซูซุมอเตอร์ (ประเทศญี่ปุ่น) พร้อมกับแนะนำโปรแกรมโซลูชั่นส์ครบวงจร “EVision” สำหรับลูกค้ารถไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์โดยเฉพาะ

มร. มาซาโนริ ทาคายามะ (Mr. Masanori Katayama) ประธานบริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศญี่ปุ่น) ให้ข้อมูลว่า อีซูซุกำลังดำเนินการพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับพลังงานทางเลือกหลายรูปแบบ เพื่อ “ปรับเร่งอนาคตของการขนส่ง” เนื่องจากประเทศต่างๆในโลกนี้มีต่างมีสภาพแวดล้อมของตนเอง เช่น สาธารณูปโภคด้านพลังงาน สภาพถนน และกฎระเบียบต่างๆ นอกจากนี้ยังมีลักษณะการใช้ ตลอดจนประเภทของสินค้าในการขนส่งที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับกลุ่มลูกค้า

กล่าวคือ ยิ่งมีกลุ่มลูกค้ามากประเภท ความต้องการต่างๆก็ยิ่งหลากหลายมากขึ้น ความสะดวกสบายของลูกค้าต้องไม่ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนรถใหม่เท่านั้น อีซูซุจึงมีหน้าที่ที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าโดยนำเสนอรถรุ่นที่เหมาะสมที่สุดโดยไม่ลดออพชั่นต่างๆ หรือเรียกได้ว่าอีซูซุมอบ “อิสระในการเลือก” ให้แก่ลูกค้า สำหรับรถทุกประเภท ตั้งแต่รถปิกอัพจนถึงรถบรรทุกขนาดใหญ่

ครั้งนี้อีซูซุได้เปิดตัวรถบรรทุก “อีซูซุ เอลฟ์” รุ่นใหม่หมด พร้อมกับรถไฟฟ้า “อีซูซุ เอลฟ์” ที่หลายคนรอคอย ปีนี้นับเป็นปีแรก แห่งการก้าวสู่ยานยนต์ไฟฟ้าของอีซูซุ และวันนี้ก็เป็นโอกาสสำคัญที่กลุ่มอีซูซุจะแสดงทิศทางในอนาคตให้โลกรับรู้

“อีซูซุ เอลฟ์” ถือเป็นรถรุ่นยอดนิยมที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่นมานานกว่าครึ่งศตวรรษ และยังมีจำหน่ายในหลายประเทศอีกด้วย อีซูซุเชื่อมั่นว่ารถบรรทุกไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ที่แนะนำใหม่นี้ จะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถทั่วโลกได้เป็นอย่างดี

การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) รุ่นแรกของ “Isuzu ELF EV” นั้น มาพร้อมกับการพัฒนา “EVision” โปรแกรมโซลูชั่นส์ครบวงจร เพื่อสนับสนุนลูกค้าที่กำลังพิจารณาการเริ่มใช้รถไฟฟ้า BEV เพื่อการพาณิชย์ และได้เริ่มให้บริการในญี่ปุ่นแล้ววันนี้ “EVision” นี้ ได้รวมถึงการหาโซลูชั่นส์แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการเริ่มใช้รถไฟฟ้า การประเมินผลประโยชน์เชิงปริมาณจากการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และการเสนอวิธีการลดคาร์บอนเพิ่มเติมเพื่อการนำไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

เมื่อลูกค้าเริ่มนำรถไฟฟ้า BEV มาใช้ในเชิงพาณิชย์ อาจจะมีประเด็นต่างๆ เกิดขึ้น เกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกในการชาร์จแบตเตอรี่ ค่าไฟฟ้า รวมถึงการประเมินผลประโยชน์เชิงปริมาณที่จะได้รับจากการลดภาระด้านสิ่งแวดล้อม โดย “EVision” ของอีซูซุ จะนำเสนอโซลูชั่นส์ในแต่ละช่วง ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นศึกษาการใช้รถไฟฟ้า BEV ในเชิงพาณิชย์ ช่วงใช้งานจริง และช่วงหลังจากการใช้งาน คือ “EVision Concierge” (ส่วนงานสนับสนุนช่วงเริ่มต้น), “EVision Solutions” (โซลูชั่นส์ช่วงใช้งานจริง) และ “EVision Review” (การทบทวนผลประโยชน์เชิงปริมาณ)

              การที่อีซูซุ เริ่มขยับเข้าสู่ตลาดรถ EV จากกลุ่มรถบรรทุก เป็นแนวคิดที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ การใช้งานของรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ หรือแม้แต่รถโดยสารประจำทาง ส่วนใหญ่เป็นการใช้งานบนเส้นทางประจำ มีกำหนดเวลาใช้งาน และจุดหมายปลายทางชัดเจนแน่นอน

              การเปลี่ยนจากใช้รถประเภทสันดาปภายใน มาสู่รถพลังงานไฟฟ้าของลูกค้ากลุ่มนี้ จึงน่าจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง และกลับจะใช้ประสิทธิภาพของแรงบิดอันมหาศาลของรถ EV ในการบรรทุกและเดินทางได้ดีมากขึ้น ที่สำคัญค่าใช้จ่ายต่อหน่วยในการขนส่งต่ำลงแน่นอน

              และเมื่อทุกอย่างมีความพร้อม การพัฒนาระบบแบตเตอรี่ ระบบชาร์จไฟฟ้าสะดวกสบาย เชื่อว่าเมื่อนั้นอีซูซุ ก็มีเทคโนโลยี และความพร้อมเต็มที่ ในการเพิ่มรถปิกอัพใช้พลังงานไฟฟ้า เข้าสู่ตลาด และไม่กระทบกับความเชื่อมั่นในแบรนด์ในระยะยาวอีกด้วย

              เพราะจะเห็นได้ว่า การที่รถ EV จากจีนทำยอดขายได้ดี ทั้งๆที่หลายๆ แบรนด์ผู้บริโภคไทยยังไม่ได้รู้จัก หรือมีความมั่นใจในตัวผลิตภัณฑ์ที่คุณภาพ ประสิทธิภาพ รวมถึงบริการหลังการขาย เพียงแค่ชอบในรูปลักษณ์ที่ทันสมัย และเป็นรถ EV ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นรถแบรนด์อะไร เพียงแค่เป็นรถ EV มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัยถูกใจ ก็พร้อมจะเปลี่ยนเป็นแบรนด์ใหม่ได้ทันที

              ในทางกลับกันหากแบรนด์รถยนต์ที่แข็งแกร่ง ได้รับความไว้วางใจ ความเชื่อมั่นจากลูกค้าสูง ส่งรถ EV เข้ามาโดยไม่รอความพร้อมของระบบโครงสร้าง งานบริการ เมื่อเกิดปัญหาอย่างหนึ่งอย่างใด ย่อมส่งผบกระทบกับความเชื่อมั่นในแบรนด์ที่สั่งสม มานานนั่นเอง

Related Articles

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Back to top button

Adblock Detected

Please consider supporting us by disabling your ad blocker