มาสด้า คาร์บอนเอดิชั่น
ในขณะที่ตลาดรถยนต์เมืองไทยกำลังหมกหมุ่นอยู่กับกระแส รถพลังงานไฟฟ้า BEV(battery Electric Vehicle) มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ยังคงมุ่นมั่นในการทำตลาดรถเครื่องยนต์สันดาปภายในต่อไป อย่างน้อยก็ตลอดปี 2566 นี้
สิ่งที่มาสด้า ต่อสู้กับกระแสความต้องการรถ BEV จากจีน คือ สมรรถนะของเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ ดีไซน์ที่สวยงามของคอนเซ็ปต์ KODO และความแปลก แตกต่างของตัวผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสีสัน รายละเอียดภายในของตัวรถ และบริการหลังการขาย
ตัวผลิตภัณธ์ใหม่ล่าสุดที่จะเน้นทำตลาดในช่วงนี้คือ Carbon Edition ซึ่งประกอบด้วย มาสด้า2, มาสด้า3, มาสด้า CX-3 และ มาสด้า CX-30 ทั้งหมด 4 รุ่น มีสีตัวรถให้เลือก 2 สีคือ โพลีเมทัล เกรย์ และ สีเทา แมชชีน เกรย์ เรียกว่า ขับไปบนท้องถนนสีของรถ เด่นขึ้นเหนือรถในระดับเดียวกันเลย
ไลน์อัพของรถยนต์ทั้ง 4 รุ่นนั้น ในส่วนของมาด้า 2 ทั้งรุ่น 4 ประตู และ 5 ประตู ทำตลาดในส่วนของเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร กำลังสูงสุด 93 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตร กำลังเครื่องยนต์ขนาดนี้ถือว่าพอตัวสำหรับน้ำหนักรถยนต์เกือบ 1 ตัน และให้ความประหยัดมาก โดยเฉพาะการใช้งานในเมือง อีกทั้งราคาน้ำมันเบนซินที่ถูกกว่า ดีเซล ในตอนนี้ และเลือกใช้ตั้งแต่เบนซิน E20 ถึง เบนซิน 95
อีกตัวคือเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร เป็นเครื่องยนต์ทั้งแรงและประหยัดในเวลาเดียวกัน แน่นอนมันขับได้สนุกสนานกว่ารุ่นเครื่องยนต์เบนซิน แต่ต้องจ่ายแพงกว่าด้วยเช่นกัน และปัจจุบัน ราคาน้ำมันดีเซลราคาค่อนข้างสูง
สำหรับ CX-3 Carbon Edition เป็นอีกตัวเลือก มันเป็นรถยนต์ครอสโอเวอร์ขนาด ซับคอมแพ็กต์ ที่มีเครื่องยนต์ให้เลือกคือ เบนซิน 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 156 แรงม้า และเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตรเทอร์โบ กำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร บล็อกเดียวกับที่อยู่ในมาสด้า 2 CX-3 เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ขับสนุก ลุยได้หลากหลาย และใช้งานได้ในทุกสภาพถนน
ในส่วนของมาสด้า 3 นั้น ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 215 นิวตันเมตร เป็นรถยนต์ขนาด ซี-เซ็กเมนท์ หรือ คอมแพ็กต์คาร์ โฉมปัจจุบันของมาสด้า 3 เรียกว่าสวยงามตามสไตล์ KODO ดีไซน์ คือ เรียบ หรู มีระดับ
ด้วยรูปร่างและหน้าตาของตัวรถที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้มันทำยอดขายให้กับมาสด้า อย่างต่อเนื่อง กำลังจากเครื่องยนต์ขนาด 2 ลิตร ที่ร้อนแรง ช่วงล่างลิขสิทธิ์เฉพาะของมาสด้า G-Vectoring Control Plus รวมถึงระบบความปลอดภัย i-Activsense ทำมันควบคุมได้อย่างมั่นใจในทุกระดับความเร็ว
แถมยังมีตัวถังให้เลือกอีก 2 แบบคือ ซีดาน 4 ประตู และแฮชท์แบ็ค 5 ประตู พอรวมกับทั้งออฟชั่นต่างๆ การตกแต่งภายในที่เลือกวัสดุ สี และสีตัวถังพิเศษอย่าง Carbon Edition มาสด้า 3 รุ่นพิเศษนี้ จึงมีความโดดเด่น และแรงถึงดูด จากกลุ่มเป้าหมายไม่น้อย
รุ่นสุดท้ายของ Carbon Edition คือ มาสด้า CX-30 ครอสโอเวอร์ ขนาดคอมแพ็กต์ ใช้เครืองยนต์บล็อกเดียวกับ มาสด้า 3 แต่ด้วยลักษณะตัวรถที่สูงกว่า และรูปทรงแบบแฮทช์แบ็ก ทำให้มันมีทั้งทัศนวิสัยที่ดี และคล่องตัวมากยิ่งขึ้น CX-30 การันตีความสวยงาม สมรรถนะ และความน่าสนใจ จากรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมจากหลายประเทศ รวมทั้งในประเทศด้วย
ในเรื่องกับขับขี่และใช้งาน ถ้ามองในด้านสมรรถนะ รุ่น Carbon Edition ไม่ได้แตกต่างจากรุ่นทั่วไป ขับสนุกเหมือนเดิม ประหยัดตามลักษณะของรถแต่ละรุ่น และเครื่องยนต์ Carbon Edition เป็นเรื่องของการให้อารมณ์ ความรู้สึกที่โดดเด่นมากขึ้นในการครอบครอง นั้นเอง