Maxmotor News

ซิตี้ RS e:HEV แฮชท์แบ็คระดับเทพ

By:กองบรรณาธิการ Maxmortorthailand

ถ้าเป็นรถยนต์ขนาดอีโคคาร์ ไปจนถึงซับคอมแพ็กต์ ในยุคนี้ ตัวเลือกมีทั้งโตโยต้า ฮอนด้า นิสสัน และมิตซูบิชิ แต่ที่โดดเด่นคงมีแค่ฮอนด้า ซิตี้ และโตโยต้า เอทีฟและยาริส เรียกว่าทำยอดขายสูสีกันมาตลอด ผลัดกันนำผลัดกันตาม เป็นช่วงๆ

              สิ่งที่ทำให้ฮอนด้า ซิตี้ โฉมปัจจุบันมีความน่าสนใจ คือ ตัวผลิตภัณฑ์ที่มีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย นอกเหนือจากรูปทรงที่ดูทันสมัย และให้ความกว้างขวางกว่ารถยนต์ขนาดซับคอมแพ็กต์ในอดีตอย่างมาก

              ไลน์อัพ หรือตัวผลิตภัณฑ์ของฮอนด้า ซิตี้ในปี 2023 นี้ ประกอบด้วยรุ่นซีดาน 4 ประตู มีเครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตร 3สูบ เทอร์โบ กำลังสูงสุด 122 แรงม้า และเครื่องยนต์ไฮบริด ของเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 98 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กำลัง 109 แรงม้า รุ่นแฮชท์แบ็ค 5 ประตู มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบข้างต้นด้วยเช่นกัน

              รุ่นที่เรานำมาทดสอบสมรรถนะครั้งนี้คือ ซิตี้ RS e:HEV แฮชท์แบ็ค 5 ประตู  ราคาจำหน่าย 849,000 บาท ล้อและยาวขนาด 16 นิ้ว พวงมาลัยแร็ค แอนด์ พิเนียน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (EPS) ดิสก์เบรก 4 ล้อ ช่วงล่างด้านหน้าแม็คเฟอร์สัน สตรัท อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง ช่วงล่างด้านหลังทอร์ชั่นบีม

              ขนาดตัวรถกว้าง 4,349 มิลลิเมตร ยาว 1,748 มิลลิเมตร และสูง1,488 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อหน้าหลัง 2,589 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อซ้ายขวา ด้านหน้า 1,497มิลลิเมตร และด้านหลัง 1,483 มิลลิเมตร ความสูงใต้ท้อง 135 มิลลิเมตร ชณะที่น้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 1,231 กิโลกรัม ความจุถังน้ำมันอยู่ที่ 40 ลิตร

              เครื่องยนต์ไฮบริดของซิตี้ รุ่นนี้เป็นระบบ Full Hybrid เป็นการทำงานของเครื่องยนต์ เบนซิน ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน              เครื่องยนต์ไฮบริดตัวนี้ ยังถูกติดตั้งในฮอนด้า แอคคอร์ด, ซีวิค และHR-V อีกด้วยครับ

              เมื่อเครื่องยนต์อันแรงที่อยู่ในฮอนด้ารุ่นใหญ่ๆ และมีน้ำหนักราวๆ ตันครึ่ง มาอยู่ในร่างของ ซิตี้ ซึ่งหนักน้อยกว่าราวๆ 300 กิโลกรัม ขนาดที่เล็กและกะทัดรัดกว่า แน่นอนว่า มันย่อมต้องมีความความแรงกว่ารุ่นใหญ่ๆ

              98 แรงม้า กับ 109 ของมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้ซิตี้ RS e:HEV ขับได้สนุก และดูเหมือนจะขับได้สนุก และคล่องตัวมากกว่า รุ่นซีดาน 4 ประตู เพราะพื้นที่ด้านท้ายที่หายไป คือเรื่องของน้ำหนักด้านท้ายหายไปด้วย อาการย้วยๆ  ที่น้อยกว่า ซึ่งที่ผ่านมา มีลูกค้าของฮอนด้า ที่ตัดสินใจเลือก ซิตี้ RS e:HEV ไปใช้อยู่ไม่น้อย

              นอกจากนี้มันยังติดตั้ง เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะจากฮอนด้า หรือ Honda SENSING ช่วยควบคุมรถในสถานการณ์การขับขี่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เป็นการเพิ่มความอุ่นใจและความปลอดภัยของตัวผู้ขับขี่และผู้ร่วมทางบนท้องถนน

โดย Honda SENSING เป็นการผสานการทำงานอย่างอัจฉริยะด้วยกล้องด้านหน้า ตรวจจับสภาพแวดล้อมบนท้องถนน ช่วยแจ้งเตือนคนขับและช่วยควบคุมรถในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ต่างๆ อีกด้วย

              เรื่องของไฮบริด ท้าเทียบกับของโตโยต้า ในเมืองไทย ฮอนด้าอาจจะมาช้ากว่า แต่เวลานี้ฮอนด้าใช้เครื่องยนต์ไฮบริดตัวนี้ รุกเข้าไปในทุกเซ็กเมนท์ของตัวเอง ตั้งแต่รถยนต์นั่งขนาดกลาง ขนาดคอมแพ็กต์ ครอสโอเวอร์ จนมาถึงขนาดซับคอมแพ็กต์อย่างซิตี้

              ฮอนด้าทำตลาดได้ค่อนข้างดี กลุ่มลูกค้ามีความเข้าใจในระบบ Full Hybrid ในเรื่องการใช้งาน ที่ให้ความประหยัดอย่างมาก สำหรับการใช้งานในเมืองที่ต้องขับๆ เบรกๆ ของระบบการจราจรของตัวเมือง

              RS e:HEV  คันนี้ติดตั้งเกียร์โหมด B มาให้ด้วย นั่นหมายถึงคุณสามารถดันคันเกียร์ลงมาอีก 1 ขึ้น มาที่ตำแหน่ง B เมื่อต้องการเอนจิ้นเบรกมาช่วยชะลอความเร็ว หรือแม้กระทั้งการขับลงทางลาดชันอย่าง อาคารจอดรถ หรือขึ้นเขา ขึ้นดอย แถมยังติดตั้ง Paddle Shift เพื่อช่วยเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเองที่คอพวงมาลัยย ยิ่งเพิ่มความสะดวกในการเรียกกำลังรถ หรือใช้เกียร์ช่วยลดความเร็วของตัว ในกรณีต่างๆ

              ทุกครั้งที่เรายกคันเร่ง เครื่องยนต์จะดับ แรงเฉื่อยจะไปปั่นกระแสไฟฟ้า เพื่อเข้าไปเก็บในแบ็ตเตอรี่ ลิเธียม-ไอออน กรณีที่แบ็ตเตอรี่มีกำลังมากพอ เราสามารถเลือกโหมด EV หรือใช้มอเตอร์ไฟฟ้า สำหรับการขับขี่ได้ในระยะทางระดับหนึ่ง

              หรือเมื่อต้องการกำลัง เพื่อเร่งความเร็ว หรือการเร่งเครื่องยนต์ในกรณีต่างๆ มอเตอร์ไฟฟ้าจะเข้ามาเป็นกำลังเสริมให้กับเครื่องยนต์ ทำให้คุณได้อัตราเร่งที่ทันใจมากขึ้น เครื่องยนต์ไม่ต้องทำงานหนัก และเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ธรรมดาๆ มีกำลังได้พอฟัดกับเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตรหรืออาจสู้กับ พวก เครื่องยนต์ 3 ลิตร V6 ในอดีตกันเลยทีเดียว

              เหล่านี้ล้วนเป็นคุณสมบัติเด่นๆ ของ Full Hybrid ใน ซิตี้ RS e:HEV  คันนี้

              สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจกับคนที่ตัดสินใจใช้ ซิตี้ RS e:HEV คือเรื่องของค่าซ่อมบำรุง ซึ่งในช่วงแรก ฮอนด้าอาจมีโปรแกรมการดูแลรักษาที่คุ้มสักหน่อย แต่ ระยะยาว จะมีเรื่องของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ลิเธียม-ไอออน เข้ามาเกี่ยวด้วย รวมถึงราคาขายต่อเป็นรถมือ 2 อาจจะไม่สวยงามเหมือนกับรถเครื่องยนต์สันดาปภายในล้วนๆ

              หากยอมรับได้เงื่อนไขเหล่านี้ และคุณเป็นคนที่ชอบรถยนต์สไตล์แฮชท์แบ็ค 5 ประตู ที่ให้ความกว้างขวางของห้องโดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระแบบจุๆ อยากใช้รถแบบประหยัดๆ แต่ได้ความแรง ชอบความคล่องตัว ราคาไม่แรงมาก ซิตี้ RS e:HEV คันนี้พอจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ของคุณได้เลยทีเดียว

Related Articles

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Back to top button

Adblock Detected

Please consider supporting us by disabling your ad blocker