Maxmotor News

ลุ้นยอดขายBEVแตะ5หมื่นคันปี66

โดยกองบรรณธิการMaxmotorthailand

บรรดาศูนย์วิจัยของธนาคารพาณิชย์หลายสำนักชี้ยอดขายรถพลังงานไฟฟ้า100%(BEV-Battery Electric Vehicle)ในเมืองไทยอาจจะทะลุ 50,000 คันในปี 2566 จากกระแสความต้องการที่ยังมีขึ้นมาต่อเนื่อง และผู้ผลิตรถยนต์เกือบทุกแบรนด์ทยอยเปิดตัวรถ BEV เข้าตลาดเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง

              ตัวเลขยอดจดทะเบียนรถใหม่ ของปี 2565 รายงานโดยกรมการขนส่งทางบก มีรถยนต์ประเภท BEV 13,551 คัน ตัวเลขยอดจดทะเบียนเดือน มกราคม 2566 อยู่ที่ 2,967 คัน และเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา 5,466 คัน ถือได้ว่าเป็นอัตราการเติบโตที่สูง และหาตัวเลขยอดขาย หรือยอดจดทะเบียน ยังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องทุกเดือน ตัวเลข 50,000 คันปี 2566 น่าจะเป็นไปได้ ขณะที่ยอดขายรถยนต์รวมทุกประเภท โตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทย ประมาณการณ์ไว้ว่าจะสูงกว่า 900,000 คัน

ที่มา:บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

              เมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์ตลาดรถยนต์ในช่วงปลายไตรมาสแรกของปี 2566 ช่วงที่มีการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ ซึ่งบริษัทผู้ผลิตรถยนต์หลายๆ แบรนด์เปิดตัวรถ BEV รุ่นใหม่ เพื่อกระตุ้นยอดขาย รวมถึงการเร่งทยอยส่งมอบรถพลังงานไฟฟ้าที่ค้างจองมาจากช่วงต้นปี ทำให้ตลาดรถ BEV ยังคงคึกคักต่อเนื่อง

ที่มา:บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

              โดยรถ BEV รุ่นใหม่ที่เข้าสู่ตลาดในช่วงเวลาที่ว่านี้ เช่น MG ES รถอเนกประสงค์แบบแวกอน ขนาดคอมแพ็กต์ และMG MAXUS 9  รถเอนกประสงค์ขนาดกลาง , BYD DOLPHIN EV รถครอสโอเวอร์ขนาดซับคอมแพ็กต์ หรือในตลาดรถยนต์ระดับหรู เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เปิดตัว เบนซ์ EQB รถแบบเอสยูวีขนาดเล็ก

              แบรนด์จีนใหญ่อย่าง เกรทวอลล์ มอเตอร์ประเทศไทย แม้จะไม่มีรถ BEV รุ่นใหม่ แต่ยังคงเร่งนำเข้า ORA Good Cat  เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งล่าสุดแจ้งว่ามีการนำเข้ามาเพิ่มอีก 3,000 คัน โดยระบุว่าก่อนหน้านี้ได้ส่งมอบ ORA Good Cat ให้กับลูกค้าไปแล้วราว 5,000 คัน

              ขณะที่แบรนด์ NETA ซึ่งมีกลุ่ม ปตท. เป็นพันธมิตร ระบุว่า มีการนำเข้ารถรุ่น NETA V เป็นชิปเม้นต์ล็อตใหญ่จำนวนกว่า 3,600 คัน มาจากท่าเรือกวางโจว ในช่วงเวลานี้ด้วยเช่นกัน

              นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แนวโน้ม และทิศทางของตลาดรถ BEV ปี 2566 ยังคงเติบโตจากปีที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่องแน่นอน แต่ยังเห็นว่า ปริมาณของตลาดรถ BEV ปีนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 40,000 คัน เมื่อเทียบกับยอดขายราวๆ 14,000 คัน ในปี 2565 น่าจะสมเหตุสมผล แม้ว่ากระแสความต้องการใช้รถประเภทนี้จะสูงขึ้น แต่คงต้องดูองต์ประกอบส่วนอื่นๆ ด้วยเช่น โครงสร้างพื้นฐานของระบบชาร์จไฟ และปัจจัยด้านเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นต่อตัวรถ BEV ในอนาคต

              สำหรับ MG นั้น นอกจากรถประเภท BEV ยังคงทำตลาดรถยนต์ทั้งไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด รวมถึงเครื่องยนต์สันดาบภายใน ซึ่งถือว่าเป็นการเดินธุรกิจในทิศทางที่เหมาะสมกับสถานการณ์ตลาดรถยนต์ในปัจจุบัน แต่ขณะเดียวกันก็เร่งสร้างสถานีชาร์จไฟแบบซูเปอร์ชาร์จ สำหรับรถ BEV กับเครือข่ายศูนย์บริการ และพันธมิตร ของ MG เพื่อรองรับการขยายตัวของรถพลังงานไฟฟ้าของเมืองไทยด้วยเช่นกัน โดย MG ตั้งความหวังจะเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ ที่ทำยอดขายสูงสุดเป็นอันดับที่ 5 ของตลาดเมืองไทย

              ในส่วนของยอดจดทะเบียนรถประเภท BEV สะสมจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา กรมการขนส่งทางบก ระบุว่า 42,691 คัน และเป็นรถยนต์ประเภทไฮบริด อีก 275,191 คัน และมีรถยนต์จะเบียนสะสมทั้งหมดทั่วประเทศเป็นจำนวน 42,241,906 คัน

              อย่างไรก็ตามบริษัทผู้ผลิตรถยนต์โดยเฉพาะจากญี่ปุ่น ยุโรป และอเมริกา กำลังตั้งเป้าการเปลี่ยนแปลงการผลิตและจำหน่ายรถ BEV ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น  โดยในอีก 7 ปีข้างหน้าหรือราวปี 2030 ยอดขายรถ BEV จะต้องเพิ่มสัดส่วนเป็นกว่า 30% ของการจำหน่ายรถยนต์ทั้งระบบนั่นเอง

Related Articles

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Back to top button

Adblock Detected

Please consider supporting us by disabling your ad blocker